วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วิเคราะห์บทบาทแคลน เกรท เนเจอร์ ใน การ์ดไฟท์แวนการ์ด ภาค 2

     สวัสดีคร้าบ พบกันอีกครั้งกับบทความเพ้อๆของพี่ชินจ้า โดยในวันนี้ก็จะกล่าวถึง แคลนอีกแคลนหนึ่งที่มีบทบาทมากมายในภาค 2 นั่นเอง ซึ่งก็คือแคลน เกรท เนเจอร์ สัตว์ป่าผู้ยิ่งใหญ่นั่นเองจ้า

     แคลน เกรท เนเจอร์ มีเอกลักษณ์ที่่ยูนิตทั้งหมดจะเป็นยูนิตสัตว์ชนิดต่างๆ ที่มีความรู้ หรือว่า เรียนอยู่ ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ค่อนข้างจะแปลกตานิดหน่อย เพราะการจับสัตว์ป่าต่างๆ เช่น เสือ แพนด้า ยีราฟ มาเรียนก็อาจจะทำให้ดูสนุกแบบคิดไม่ถึงได้เลยทีเดียวจ้า โดยสไตล์การเล่นของแคลนนี้จะเป็นการเน้นเพิ่มพลังให้กัล RC ประมาน 4000 แต่ก็จะต้องแรกมาด้วยการถูกรีไทร์ตอนจบเทิร์น แต่ก็จะมีเอคเฟคต่างๆ ในการช่วย เช่นเมื่อโดนรีไทร์ตอนจบเทิร์น จะได้จั่ว หรือ ได้หงายดาเมจ หรือ ได้เซิจยูนิตในเด็คขึ้นมือ หรือ แม้แต่ชุบกลับเข้ามาในสนามอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นแคลนที่เล่นสนุกสนานอีกแคลนหนึ่งเลยทีเดียว

     สำหรับผู้ที่ใช้แคลนนี้ได้แก่ทีม เด็กอัจฉริยะ ทีม S.I.T. จีเนียส นั่นเอง โดยกลุ่มนี้ถึงจะดูเป็นเด็กแต่ความฉลาดเกินเด็กไปเลยทีเดียว เพราะฉลาดถึงขั้นข้ามชั้นเรียนมาแล้ว (อารมณฺประมาณว่าต้วอยู่ ป.3 แต่เรียนไปถึง ม.3 อะไรประมาณนั้น) และแน่นอนว่าใช้แคลนนี้ได้เก่งกาจเลยทีเดียว แถมหัวหน้าทีมได้รับบทบาทเป็นรองบอสของภาค 2 อีกต่างหาก เรียกว่าเพิ่มงานให้กับพระเอก เซนโด ไอจิ ของเราพอสมควรเลยจ้า

     ต่อมาเรามาดูกันดีกว่าครับว่า แคลน เกรท เนเจอร์ นั้น มีการปรากฏตัวในชุดไหนบ้าง (ณ ตุลาคม 2014)

Booster Sets:

Fighter's Colelction

Shared Races

โดยแคลนนี้เป็นแคลนที่ปรากฏตัวก่อนในภาค 1 แล้วก็จริง แต่เนื่องจากออกมาเพียงแค่ 4 ใบ จึงไม่สามารถจัดเป็นเด็คได้ ต้องรอการ์ดจาก BT07 ออกมาถึงจะจัดเป็นเด็คเล่นได้นั่นเองจ้า

     สาย School Hunter, Leo-pald (BT07)
     สายดั้งเดิม หรือ สายพื้นฐานที่สุดของ แคลนนี้ โดยสายนี้จะเล่นโดยเน้นตัว Leo-pald ยืนเป็นตัวหลัก และสามารถแอบเสริมเกรด 3 อื่นๆ ได้ตามใจชอบ แต่ส่วนมากมักจะเสริมเป็นยูนิตที่เมื่อโดนรีไทร์แล้วเกิดเอคเฟคมากกว่า ด้วยความที่ Leo-pald สามารถแจกพลังให้คนอื่นได้ทุกเทิร์น(แลกกับการที่จะต้องตายในช่วงจบเทิร์น) ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องพลังการบุกจากช่อง RC มากนัก อีกทั้งสกิล LB4 ของ Leo-pald ก็ยังช่วยวนยูนิตที่ตายไปกลับมาได้อีก เรียกได้ว่าบุกได้ต่อเนื่องสุดๆ อีกทั้งสายนี้ยังไม่ค่อยซีเรียสเรื่องการ์ดที่ใส่ในเด็คมาก รวมถึงทริคเกอร์ด้วย จึงสามารถปรับรุปแบบการบุกได้หลายๆ แบบ แล้วแต่ต้องการนั่นเอง แต่โดยรวมถือว่าเล่นง่ายครับ แถมตีแรงด้วย ฝั่ง RC ซักฝั่งถ้าต่อบูสดีๆ ตีได้ถึง 21000 ขึ้นไปแน่ๆ 

     สาย Guardian of Truth, Lox (BT07)
     สายสามัญอีกสายหนึ่งโดยสายนี้มีคีย์อยู่ที่สกิล เพอร์โซน่าบลาสของ Lox ที่เมื่อจ่ายค่าคอสไปแล้วจะเลือก RC เพิ่มพลัง 4000 และแถม 1 คริติคอล เข้าไปด้วย ดังนั้นสไตล์การเล่นของสายนี้จะเน้นที่การขู่โจมตีด้วยคริติคอล จากทั้ง VC และ RC นั่นเอง โดยสไตล์การเล่นของสายนี้จะเน้นให้ Lox ปั้มพลังให้กับยูนิตที่สามารถตีเองเพียวๆ ได้เกิน 11000 ได้ เช่น Red Pencil Rhino ที่เอามาเล่นคู๋กับ Lox อยู่แล้ว หรือจะเป็นเกรด 3 Magnet Crocodile ก็โอเค จากนั้นก็อาจเลือกเล่นเป็นใส่ แสตน ทริคเกอร์เยอะๆ หน่อย เพื่อให้ตัวRC ที่เราบวกพลัง และ คริ ไว้ ลุกขึ้นมาตีได้อีกรอบนั่นเอง ดังนั้นสายนี้จะเน้นกะจังหวะ ใช้เอคเฟคของ Lox ในจังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามมือน้อยๆ แล้วเอา Lox แจกคริกับพลังให้ RC เพื่อให้ตีหนักๆ และ บังคับให้ฝ่ายตรงข้ามต้องป้องกันนั่นเอง

     สาย School Dominator, Apt (BT07)
     อีกสายหนึ่งที่น่าเล่นของแคลนนี้ ซึ่งสายนี้จะมีความน่ากลัวตรงที่ Apt กับความสามารถ LB4 ในการเร่งพลังง่ายๆ โดยถ้าเล่นคู่กับตัวต่อบูสของ Apt เอง ก็จะได้พลังถึง 26000 ในช่อง VC และ 21000 ในช่อง RC เลยทีเดียว ทำให้ต่อพลังได้ง่ายมาก และไม่ต้องรีไทร์อีกด้วย สายนี้จึงสามารถเร่งพลังตีได้เรื่อยๆ นอกจากนี้สกิลของ Apt ยังช่วยเพิ่มจำนวนครั้งในการโจมตีได้อีก ทำให้เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบเล่นเกมเร็วมากๆ แต่อาจจะต้องระวังการ์ดบนมือหน่อยเพราะการเรียกตัวใหม่ลงมาโจมตีเท่ากับว่าบนมือเราก็ลดลงไปเช่นเดียวกัน ดังนั้นสไตล์นี้จะเน้นเกมเร็ว ต่อบูสหนักๆ ส่วนใครจะเสริมด้วยยูนิตแบบไหนก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการครับ เพราะแคลนนี้มีตัวเลือกให้ใส่ในเด็คค่อนข้างเยอะมากๆ ทีเดียว

     สาย Battler of the Twin Brush, Polaris (BT09)
     สายสุดท้ายของแคลนนี้ในภาค 2 โดย Polaris นี้จะออกมาในชุด BT09 นั่นเอง โดย Polaris นั้นนับว่าเป็นยูนิตที่ครบเครื่องเรื่องการบุกอีกตัวหนึ่งของแคลนนี้ เพราะตัวมันเองแค่โจมตี VC ฝ่ายตรงข้ามก็ +3000 แล้วทำให้ต่อบูสได้ง่ายหรือสู้กับพวกครอสไรด์ไหว แถมสกิล LB4 ที่ช่วยเพิ่มจำนวนครั้งในการโจมตี แล้วยังจะบวกพลังให้อีก เรียกว่าครบสูตรมากๆ โดยยสไตล์การเล่นสายอาจจะกินปริมาณเคาเตอร์บลาสมากหน่อย เพราะแค่ LB4 ของ Polaris ก็ใช้ทีละ 2 แล้ว ไหนจะตัวอื่นๆ ที่อาจจะต้องใช้อีก ทำให้ต้องคอยระวังเรื่องการใช้งานเคาเตอร์บลาสพอสมควร ดีที่แคลนนนี้มีตัวช่วยหงายดาเมจที่ใช้ไป ทำให้สามารถใช้ต่อเนื่องได้ 2-3 เทิร์นแบบไม่ยากมากนั้น (เอาจริงๆ ใช้ไป 2-3 เทิร์น ก็น่าจะรู้ผลแล้วล่ะ) สายนี้จึงเป็นอีกสายหนึ่งที่แนะนำให้เล่น โดยสามารถนำไปผสมกับสายอื่นๆ ก็ยังได้ เพราะ Polaris นั้นใช้งานได้ง่ายๆ นั่นเองจ้า


     จริงๆ ก็ยังมีสายอื่นๆ อีก เช่น สาย Armed Instructor, Bison เพียงแต่ว่าคนอาจไม่ค่อยนิยมเล่นเท่าไหร่นัก เพราะ ตัว School Hunter, Leo-pald หรือ  Battler of the Twin Brush, Polaris ครบเครื่องมากกว่านั่นเองจ้า



     ทั้งหมดนี้ก็เป็นบทบาททั้งหมดของ แคลน เกรท เนเจอร์ ในภาค 2 นั่นเองครับ เสียดายที่แคลนนี้ในภาค 3-4 บทบาทจะลดน้อยลงจนหน้าใจหาย ก็ได้แต่ภาวนาว่าผู้ผลิตอย่างบูชิโร้ดจะนำแคลนนี้มาปัดฝุ่นใหม่ในภาค 5 นะคร้าบบบบบ (แต่การ์ดจากภาค 5 ชุดแรกก็มีแต่ 4 แคลนหลัก+แคลนใหม่เหมือนเดิม ฮ่วย)


ขอบคุณที่ติดตามคร้าบ
โดย พี่ชิน

1 ความคิดเห็น:

  1. ดีครับที่พี่ชินเขียนบทความออกมาให้ได้ตัดสินใจสำหรับคนที่จะเล่นแคลนต่าง ๆ แต่รบกวนช่วยตรวจสอบการสะกดคำด้วยนะครับ อย่างคำว่า แลก แต่เขียนเป็น แรก เนี่ยครับ เดี๋ยวเด็ก ๆ มาอ่านแล้วจะเข้าใจผิดคิดว่าพี่ชินเขียนถูกแล้วนำไปใช้ตาม

    ตอบลบ