วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

วิเคราะห์ แคลน โกลด์พาลาดิน ในการ์ดไฟท์แวนการ์ด ภาค2

วิเคราะห์ แคลน โกลด์พาลาดิน ในการ์ดไฟท์แวนการ์ด ภาค2
สวัสดีครับ พี่ชินเช่นเคยจ้า โดยในวันนี้เราจะมาวิเคราะห์ แคลนใหม่ล่าสุดที่ปรากฏตัวครั้งแรกในการ์ดไฟท์แวนการ์ดภาค2 หรือก็คือแคลน โกลด์พาลาดิน นั่นเองครับ


แคลนโกลด์พาลาดินนี้ ถ้าอิงตามเนื้อเรื่องในการ์ตูน เนื่องจากมีพลังลึกลับมาปิดผนึกแคลนรอยัล คาเงโร่ และชาโดวพาลาดินไป ทำให้พระเอกของเรา เซ็นโด ไอจิ ต้องจับพลัดจับพลูมาเล่น แคลน โกลด์พาลาดินแบบช่วยไม่ได้ ช่วงแรกๆ ไปจนถึงกลางๆ ก็จะแพ้บ่อยๆ เพราะเหมือนยังไม่ถนัด บวกกับยังคิดถึงรอยัลอยู่ แต่สุดท้ายก็ยอมรับ โกลด์พาลาดิน และร่วมสู้ไปด้วยกันตลอดภาค 2
สไตล์การเล่นของแคลนนี้มีความคล้ายคลึงกับแคลนรอยัลพาลาดินมากๆ โดยยังเน้นที่การเรียกพวกให้เต็มสนามอย่างรวดเร็วเช่นเคย แต่วิธีการเรียกพวกนั้นจะต่างจากรอยัลนิดหน่อยตรงที่ รอยัลพาลาดินนั้นจะเป็นการ หา ยูนิตตัวนั้นๆ ขึ้นมือ หรือเข้ามาในสนามเลย ซึ่งจะแตกต่างจากโกลด์พาลาดินที่เน้นการเปิดการ์ดใบบนสุดแล้วเอาตัวนั้นเข้ามาในสนาม
โดยเราสามารถแยกโกลด์ออกมาได้เป็นหลายสายดังนี้


1. สายกัลโมลด์+บลอนส์ เอเซล สายนี้จะเป็นสายแรกสุดของโกลด์ก็ว่าได้ เพราะเป็นชุดแรกของโกลด์ที่ออกมานั่นเอง โดยตัวกัลโมลด์นั้นค่อนข้างจะเป็นตัวบุกช่วงต้นเกมไปจนถึงกลางเกมได้ดีทีเดียว เพราะต่อพลังง่าย เรียกพวกก็ได้ แถมมีตัวบูสเฉพาะทางอีก ทำให้เก่งกาจมาเลยทีเดียว โดยในช่วงแรกๆ ผู้เล่นหลายๆ คนนิยมนำไปผสมกับ บรอนด์เอเซล เพื่อให้เก่ง และ เรียกพวกได้ไวมากยิ่งขึ้น แต่พอช่วงหลังๆ ความโดดเด่นของ กัลโมลด์ จะลดลง จนกลายเป็นตัวบุกอิสระที่สามารถนำไปใส่ได้ทุกสายของโกลด์พาลาดินนั่นเอง

2. สาย สเปคทรัล ดุ้ค ดราก้อน
สายนี้จะเป็นสายโกลด์ที่ให้อารมณ์ความเป็นชาโดวในตัวนิดๆ อาจจะเป็นเพราะคนใช้สายนี้ในการ์ตูนทีวี ไม่ใช่พระเอก เซ็นโด ไอจิ แต่เป็น เร็น บอสสุดท้ายของภาค1 ต่างหาก (แต่ขึ้นภาค2มาเขาไม่ใช่ตัวร้ายแล้วนะจ้ะ) โดยสายนี้จะปรากฏตัวในชุดEB03 และจะเป็นสายที่ได้รับความนิยมสูงมาก ด้วยความที่เป็นเด็คดีกรีแชมป์โลกแวนการ์ด ปี 2012 เลยทีเดียว สายนี้จะเป็นสไตล์การเล่นที่รุนแรงด้วยพลังการบุกจากตัวของสเปคทรัล ดุ้ค ดราก้อน ที่สามารถแสตนตัวเองได้ โดยแลกกับการรีไทร์เรียลเรา3ตัว แต่ก็ไม่น่าจะใช่ปัญหาใหญ่อะไรมากสำหรับโกลด์พาลาดิน เพราะมีความสามารถในการเติมพรรคพวกให้เต็มอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเมื่อใช้สกิลของ สเปคทรัล ดุ้ค ดราก้อน ที่เมื่อแสตนตัวเองแล้วจะสูญเสีย ทวินไดรฟ์ก็ตาม แต่ในการโจมตีซ้ำเราก็สามารถเรียกการป้องกันจากฝ่ายตรงข้ามได้อีกโข ทำให้เมื่อเราบุกโจมตีไปเรื่อยๆ ฝ่ายตรงข้ามจะป้องกันไม่ไหวและพ่ายแพ้ไปในที่สุดนั่นเอง

3. สาย เพลินอร์
สายนี้จะเป็นสายที่ปรากฏตัวในชุด BT07 ซึ่งสายนี้พระเอกของเรา เซนโด ไอจิ ได้มีการนำไปใช้ในช่วงกลางถึงท้ายเรื่องใน ภาค2 โดยสายนี้ก็เป็นอีกสายหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงมากเช่นกัน เพราะเป็นถึงเด็ครองแชมป์ ของการแข่งขันแวนการ์ดชิงแชมป์โลกในปี2012 ด้วย สไตล์การเล่นของสายนี้จะเน้นไปที่การเรียกพวกจากกองจนถึงขีดสุด โดยแทบทุกยูนิตในเด็คนี้จะมีความสามารถเรียกพวกจากกองการ์ด หรือ เมื่อเข้ามาในสนามจากกองการ์ดแล้วจะเกิดความสามารถตามมา รวมถึงเกรด3 ใบหลักของสายนี้อย่างเพลินอร์ด้วย ซึ่งความสามารถของเพลินอร์นั้นหลักๆคือการซูพีเรียไรด์ตัวเอง เมื่อเข้ามาในช่อง RC จากเด็ค ดังนั้นหมายความว่า แม้ในช่วงแอคแทคเฟส ถ้ามียูนิตที่ช่วงเรียกเข้ามาในสนามได้ เช่นวิเวียน แล้วบังเอิญ เปิดเจอเพลินอร์ เราจะสามารถซูพีเรียลงช่องvc แล้วโจมตีต่อได้ทันที ดังนั้นสายนี้จึงมีความสามารถในการบุกแบบรวดเร็วมากๆ เพียงแต่อาจต้องพึ่งดวงนิดหน่อยด้วยเพราะถ้าเกิดใบที่เปิดเพื่อเรียกเข้ามาในสนามดันเป็นทริคเกอร์ก็ลำบากกันไปครับ55



4. สาย พลาติน่า เอเซล
สายนี้จะเป็นสายที่ปรากฏตัวในชุด BT09 ครับ โดย พลาติน่าเอเซลนี้ จะเป็นการ์ดเกรด3 ตัวเก่งของพระเอกในช่วงท้ายเรื่องในภาค 2 นั่นเองครับ ซึ่งพลาติน่า เอเซลนี้ ก็จะเป็นร่างครอสไรด์ของ บรอนด์เอเซล นั่นเอง แน่นอนครับว่าถ้าเป็นครอสไรด์ ความน่ากลัวของมันคือการยืนด้วยพลัง 13000 ที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามยากต่อการโจมตีมาก อีกทั้งบลอนด์เอเซลเป็นเกรด3 ที่สามารถซูพีเรียไรด์ได้ ดังนั้นแค่ไม่กี่เทิร์นเราอาจจะได้เห็น พลาติน่าเอเซลยืนครอสไรด์แล้วก็ได้ สไตล์การเล่นยังคงความเป็นโกลด์พาราดินไว้เหมือนเดิมครับ คือเน้นเรียกไว และโจมตีแบบรุนแรง โดยในชุด BT09 นั้นจะมียูนิตต่างๆ คอยสนับสนุนยูนิตที่ติดชื่อ เอเซล ทำให้การบุกเป็นไปได้อย่างง่ายดาย และยิ่งช่วงท้ายเกมเมิ่อ พลาติน่าเอเซลใช้สกิล LB5 ได้แล้วล่ะก็แทบจะป้องกันไม่ไหวเพราะจะบวกพลังให้Rเราตัวละ5000ทุกตัวครับ โดยรวมสายนี้เป็นสายที่สมดุลทั้งรุกและรับ ถึงตัวแวนจะไม่สามารถแสตนขึ้นมาเองได้หรือโจมตีสองครั้งได้เหมือนสายอื่นๆ แต่ก็มีความสามารถในการเสริมพลังให้เพื่อนๆ ได้อย่างโหดสุดๆ ไปเลยนั่นเอง


ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นสายต่างๆ ที่ได้รับความนิยมของแคลน โกลด์ พาลาดิน ในภาค 2 ครับ จริงๆ แล้วจะยังมีสายอื่นๆ ยิบย่อยอีกมากมาย เช่นสาย Conviction Dragon, Chromejailer Dragon ครับ

แต่ถ้าจะให้เขียนทั้งหมดก็คงจะไม่ไหวเพราะว่า ในการจัดเด็คนั้นเราสามารถสร้างสรรค์เด็คเราได้หลาก
หลายวิธีมากๆ นั่นเองครับ

สุดท้ายนี้ สำหรับคนที่คิดจะเล่นแคลนโกลด์ พาลาดิน นี้ล่ะก็ ขอบอกไว้เลยว่าเก่ง โหด เล่นสนุกแน่นอน และที่สำคัญคือจะมีบทบาทไปอีกยาวๆ ถึงภาค 4 ขึ้นไปแน่นอนครับ
ขอบคุณที่ติดตามการอ่านนะครับ เราจะวิเคราะห์กันทุกแคลนแน่นอน แต่สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนจ้า สวัสดีคร้าบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น