วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

วิเคราะห์ บทบาทต่างๆ ของแคลน แองเจิล ฟีเธอร์ส ในการ์ดไฟท์แวนการ์ด ภาค 2 จ้า

     สวัสดีคร้าบ พบกันอีกครั้งกับ บทความดีๆ จากพี่ชิน โดยวันนี้ก็เช่นเคยเลยกับการ วิเคราะห์ บทบาทต่างๆ ในการ์ดไฟท์แวนการ์ด ภาค 2 จ้า โดยในวันนี้ เป็นคราวของแคลน แองเจิล ฟีเธอร์ส นั่นเอง ซึ่งแคลนนี้ก็เป็นแคลนน้องใหม่ในภาค 2 อีกด้วย และเป็นอีกแคลนหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการเล่นเช่นกัน จะเป็นเพราะอะไร ยังไง ก็ไปดูกันเลยจ้า

     แคลน  แองเจิล ฟีเธอร์ส นั้นเป็นแคลนที่ปรากฏตัวครั้งแรกในภาค 2 โดยออกมาในชุด BT-06 เป็นชุดแรกนั่นเอง ซึ่งลักษณะ ธีม เด่นๆ ของยูนิตในแคลนนี้จะเป็นยูนิต สไตล์เทวดา นางฟ้า เสียส่วนใหญ่ จึงทำให้เป็นแคลนที่มีความสวยงามค่อนข้างสูง ติดใจกันไปหลายๆ คนเลยทีเดียว

     รูปแบบการเล่นที่เป็นจุดเด่นหลักๆ ของแคลนนี้ จะเป็นลูกเล่นเกี่ยวกับการ์ดใน ดาเมจโซน ซึ่งจะต่างกับ แคลนโนว่า ตรงที่ว่า โนว่าในช่วงแรกๆ จะเน้นความสามารถในการหงายดาเมจที่ใช้ไปแล้ว (แต่หลังๆ โนว่าจะเน้นแสตนรัวๆ แทน) แต่ของ  แองเจิล ฟีเธอร์ส นั้นจะเน้นเกี่ยวกับ ดาเมจโซน เต็มรูปแบบ มีทั้ง สลับการ์ดในดาเมจโซนกับบนมือ เรียกยูนิตจากดาเมจโซน ใช้สกิลจากดาเมจโซน เพิ่มพลังเมื่อมีการ์ดตกดาเมจโซน การฮีลดาเมจ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สุดที่ไม่เหมือนแคลนอื่นๆ นั่นเอง

     ผู้ที่ใช้แคลนนี้ใน ภาค2 นั้น ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นกลุ่มไอดอลสาว อัลต้าร์ แรร์ นั่นเอง (อัลต้าร์ แรร์ จริงๆ แล้วเป็นระดับความหายากของการ์ดครับ โดยจะเป็นระดับที่หายาก คนเขียนบทเลยจับมาเป็นชื่อกลุ่มเลยนั่นเอง) โดยสมาชิกในวงประกอบด้วย

     ทัตสึนางิ โคริน ซึ่งในภาค 2 นี้จะมีบทบาทในการให้กำลังใจพระเอก เซ็นโด ไอจิ ของเราพอสมควรเช่นเดียวกับ ภาค1 และจะยิ่งใกล้ชิด พระเอกของเรามากยิ่งขึ้นในภาคต่อๆ ไปด้วย ใครเชียร์ ใครจิ้นคู่นี้ก็เชียร์กันไปเลยจ้า เพียงแต่ว่า เร็กกะนั่นจะใช้แคลน แองเจิล ฟีเธอร์ส เพียงแค่ใน ภาค 2 เท่านั้น พอขึ้นภาค 3 ก็จะเปลี่ยนไปเล่น รอยัล แทนครับ

     ทัตสึนางิ เร็กกะ น้อง(ตัวเล็ก)ของวง บทบาทในภาค 2 จะมีไม่ค่อยเยอะ แต่เธอเป็นคนที่เล่นแคลน แองเจิล ฟีเธอร์ส ได้เก่งอีกคนหนึ่ง และเป็นคนที่ใช้แคลนนี้ยาวไปถึงภาค 3 เลยทีเดียว ดังนั้นสุดท้ายแล้ว เร็กกะ นี่เองที่เป็นคาแรคเตอร์หลักที่เล่น แองเจิล ฟีเธอร์ส นั่นเองจ้า

    ทัตสึนางิ ซุยโกะ พี่ใหญ่ของวง บทบาทในภาค 2 ก็น้อยเช่นเดียวกัน แต่ก็เป็นอีกคนที่เล่นแคลน แองเจิล ฟีเธอร์ส ไปถึงในช่วงภาค3 (ช่วงต้น ก่อนที่ช่วงหลังจะเปลี่ยนไปเป็น Link Joker)

     ต่อไปเรามาดูกันดีกว่าครับว่า แคลน แองเจิล ฟีเธอร์ส นั้นมีอยู่ในชุดใดบ้าง (ณ เดือน กันยายน 2014)

Sets containing Angel Feather cards

Booster Sets:

Fighter's Collection

     ซึ่งแน่นอนว่าในช่วง ภาค2 นี้สามารถจัดเด็คแคลนนี้ได้หลายสายมากๆ แถมแต่ละสายก็น่ากลัวด้วยเช่นกัน


     สาย คิริเอล + เกรด3 อื่นๆ ที่เหมาะลงช่อง RC
     สไตล์การเล่นสายนี้ จะเน้นการใช้ คิริเอล เป็นตัวหลักในการบุก ซึ่งความน่ากลัวอยู่ที่สกิล LB4 ของคิริเอลเอง ซึ่งสามารถเร่งพลังให้เกิน 20000 ได้ง่ายมาก อีกทั้งตัวคิริเอลเองก็มีตัวบูสเฉพาะตัวอีกด้วย ทำให้สามารถเร่งพลังเป็น 26000 ในช่อง VC ได้อย่างสบาย และสามารถเร่งพลังในช่อง RC ได้ถึง 21000 ด้วย ประกอบกับการที่คิริเอลสามารถเรียกพวกได้ฟรีๆ อีก 1 ตัว จากดาเมจโซน ทำให้คิริเอล เป็นยูนิตที่มีความครบเครื่องทั้งด้านการบุก และด้านการเสริมทัพนั่นเอง สายนี้จึงเป็นสายที่นิยมมากๆ

     สาย เอลโกดิเอล
     สายนี้จะเป็นสายที่เน้นการใช้งานสกิลของ เอลโดกิเอล เป็นหลักโดยที่สกิลของ เอลโดกิเอล นั้นถ้าเราสามารถทำเงื่อนไขได้ครบถ้วนเราจะได้ฮิล 1 ใบแบบฟรีๆ กันเลยทีเดียวอีกทั้งถ้าไรด์ทับร่างเกรด 2 ได้ล่ะก็ จะสามารถยืนด้วยพลัง 11000 ซึ่งถือว่าเยอะที่สุดในแคลนนี้ ในตอนนี้เลยทีเดียว(เฉพาะภาค2) ทำให้ในเกมบุกเราสามารถกดดันฝ่ายตรงข้ามได้ดี เพราะฝ่ายตรงข้ามจะกลัวเราใช้สกิล หรือ ในการตั้งรับฝ่ายตรงข้ามถ้าต่อบูสไม่ดีก็จะโจมตีเราได้ลำบากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ถ้าไรด์ทับร่างเกรดต่างๆ ไปได้เรื่อยๆ เราจะมีโอกาศได้เปลี่ยนการ์ดในมือ กับ การ์ดในดาเมจโซน ค่อนข้างบ่อย ทำให้เราสามารถตั้งเกมในรูปแบบที่ต้องการ หรือ ช่วยหงาย เคาเตอร์บบลาส ที่เราใช้ไปแล้วได้นั่นเอง โดยรวมสายนี้ถ้าไรด์ติดไปเรื่อยๆ ก็จะน่ากลัวมากๆ เลยทีเดียว

    สาย Chief Nurse, Shamsiel
    รูปแบบการเล่นของสายนี้จะเน้นไปที่การสลับการ์ดในดาเมจโซนกับมือ หรือ หาการ์ดลงดาเมจโซน ให้เด่นที่สุด เพราะ รูปแลลสกิลของตัว Shamsiel จะช่วยให้เราสามารถสลับได้ 1 ครั้ง ทุกๆ เทิร์นอยู่แล้ว อีกทั้งตัว Shamsiel ก็จะได้รับการบวกพลังเมื่อมีการ์ดตกดาเมจโซน ทำให้ถ้าต้องท้ายด้วย เทาซ์ซั่น เรย์ เพกาซัส แล้วล่ะก็ สามารถเร่งพลังได้ง่ายๆ เลย แถมตัว Shamsiel นั้นถ้าตกเป็นฝ่ายรับก็จะได้เปรียบเพราะเมื่อเราโดนตี เราเสียดาเมจลงดาเมจโซน Shamsiel ก็จะได้พลังเพิ่มด้วย ทำให้ Shamsiel นั้นเป็นยูนิตที่เก่งเอามากๆ อีกตัวนึงเลยทีเดียว

     สาย Crimsom Impact, Metatron
     ต้องยอมรับว่าสายนี้อาจจะเป็นสายที่โหดที่สุดของแคลน แองเจิล ฟีเธอร์ส ในภาค 2 ก็ว่าได้ โดยสไตล์การเล่นของสายนี้จะเป็นการดึงความสามารถในการเปลี่ยนการ์ดบนมือกับดาเมจโซนออกมาให้ถึงขีดสุด อีกทั้งยังเพิ่มการ ซูพีเรียไรด์ และ การใช้เอคเฟคจาก ดาเมจโซน ไปอีก ทำให้มีลูกเล่นในการใช้สกิล และ การเพิ่มพลังสูงมากๆ โดยสกิล LB ของ Crimsom Impact, Metatron มีข้อดีมากๆ คือ เป็นสกิลประเภท ACT ทำให้สามารถหาจังหวะในการใช้งานได้ง่ายกว่า สาย Chief Nurse, Shamsiel ค่อนข้างมาก อีกทั้งสลับทีละ 2 ใบ ทำให้ยูนิตที่ได้รับผล + พลัง จากการที่การ์ดตกดาเมจโซนนั้น ได้รับพลังกันอย่างเต็มที่สุดๆ ทำให้สายนี้เป็นสายที่ถ้าติดคอมโบแล้ว สามารถเร่งพลังช่อง VC ได้ถึง 30000+ และช่อง RC ได้ถึง 25000+ นั่นเอง จึงกลายเป็นสายที่ได้รับความนิยมในการเล่นสูงมากในช่วงท้ายภาค 2 นั่นเองจ้า

     จริงๆ แล้วก็จะยังมีอีกหลายสายนะครับที่ยังไม่ได้กล่าวถึง เพราะ บางสายนั้นไม่ค่อยมีคนนิยมนำมาเล่นมาก พี่ชินจึงขออนุญาติไม่กล่าวถึงด้วยนะครับ แต่แน่นอนว่าการจัดเด็คนั้น ไม่มีผิด ไม่มีถูก อยู่ที่ตัวเราว่าเราชอบ เราถนัด แบบไหน ค่อยๆ ลองปรับไปเรื่อยๆ ครับ แต่ถ้าใครรักใครชอบแคลนนี้ รับรองไม่ผิดหวังแน่จ้า 

ขอบคุณที่ติดตามครับ
โดย พี่ชิน

3 ความคิดเห็น:

  1. ถ้าต้องการใช้เอฟเฟค แตาดาเมจมี5ล่ะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รู้หรือยังครับ ถ้ายังก็อ่านได้เลยนะครับ

      "ถ้ามี 5 ดาเมจแล้วใช้สกิลที่สลับเปลี่ยนบนมือกับดาเมจ มันจะยังถือว่าสกิลยังไม่จบ จึงยังไม่ถือว่าแพ้ครับ (ยกเว้นพวกจำลองดาเมจ)"

      ลบ
  2. เราก็เล่นแคลนนี้แต่คิริเอลมีความสามารถแต่ทำได้กี่ดทิร์นและพลังส่วนมากจะเท่าไหร่ครับ มือใหม่ครับ

    ตอบลบ